ทำร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จ | บทเรียนจากออฟุลลี่ช็อคเคลด

ผมได้ฟังสำภาษณ์คุณลินลีผ่านทางวอยซ์ทีวีเมื่อไม่นานมานี้ ถึงความสำเร็จของออฟุลลี่ช็อคเคลด ร้านขายเค้กช้อคโกแล้ตเล็กๆ แบบอินดี้ในสิงคโปร์ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นเชนแตกเป็นหลายสาขาในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศแถบเอเซีย

สิ่งที่ผมชื่นชมไม่ใช่ความสามารถเติบโตในแง่ธุรกิจของออฟุลลี่ช้อคเคลด หากเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจของคุณลินนักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ เล่าแบบคร่าวๆ คือ ส่วนตัวลินลีเองเป็นคนที่ชื่นชอบเค้กช้อคโกแล้ต และได้ตระเวณชิมไปทั่ว เธอไม่ใช่คนที่ชอบทำเค้กหรือทำขนม แต่เธอเป็นคนที่ชอบ “กิน” และบอกได้ว่าอย่างไหนดี อย่างไหนอร่อย เธอใช้ความสามารถนี้ในการเลือกวัตถุดิบที่พิเศษกว่าเค้กทั่วๆ ไป ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้เค้กช้อคโกแล้ตที่เธอเชื่อว่าอร่อยที่สุดและทุกคนน่าจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน

เอาหล่ะ.. สินค้าของเธอพร้อมแล้ว  แต่วิธีการนำเสนอเค้กช้อคโกแล้ตยังสำคัญไม่แพ้ตัวเค้กเอง

แนวทางของลิน จึงพยายามทำให้ “แตกต่าง” ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ฉีกกรอบเดิมๆ ออกไป

แน่นอนเธอเชื่อว่าเค้กของเธอแตกต่าง และใครๆ ไม่สามารถซื้อตำราไปทำเองที่บ้านได้ เพราะวัตถุดิบถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษ 

เธอออกแบบร้านอย่างเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น สว่่างไสว ดูคล้ายคลีนิค หรือร้านเครื่องสำอางมากกว่าร้านเบเกอรี่ทั่วไป

ทำเลของออฟุลลี่ช้อคเคลดสาขาแรก ถูกลินเจาะจงให้ไปอยู่ในย่านเก่าแก่แทนที่จะเป็นออร์ชาดศูนย์รวมความทันสมัยต่างๆ ของสิงคโปร์ และรายการเค้กที่ขายเป็นไปอย่างเรียบง่าย เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน คือมีเค้กเพียง 3 รสชาติ และไอศกรีมอีก 2-3 รสชาติให้เลือกเท่านั้น

ผลหรือครับ… ออฟุลลี่ช้อคเคลดของลินเรียกร้องความสนใจกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เพราะร้านเด่นและดูแปลกตาสุดๆ มันสร้างคำถามให้กับผู้พบเห็น เป็นร้านทันสมัยที่อยู่ในย่านเก่าแก่ และดูไม่เหมือนร้านเค้ก แถมค่าเช่ายังไม่แพงอีกด้วย

เมื่อลูกค้าได้ลองชิมเค้กดู แน่นอนอยู่แล้วว่ามันยิ่งสามารถสร้างความประทับใจได้ไม่ยาก รวมถึงการบริการที่เป็นกันเองเพราะลินดูแลใกล้ชิด หรือแม้ให้พนักงานบริการยังสามารถทำได้ดีเพราะรายการสินค้าไม่ซับซ้อนอะไร ทำให้ร้านสามารถสร้างลูกค้าด้วยวิธีปากต่อปากจนมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีนิตยาสารแนะนำที่ดื่มกินเล่มหนึ่งมาเขียนถึง ออฟุลลี่ช้อคเคลดจึงเป็นที่รู้จักในวงกว้างและประสบความสำเร็จสูงสุดตราบเท่าทุกวันนี้

เมื่อนักข่าวถามว่าทำไมถึงต้องออกแบบร้านอย่างนี้ และไปอยู่ในทำเลที่ไม่น่าจะใช่กลุ่มเป้าหมาย ?

ลินตอบทันควัน “ฉันว่า ทำธุรกิจมันต้องเสี่ยง” และเธอได้เสี่ยงในสิ่งที่เธอเชื่อมั่น

สิ่งที่น่าสนใจขึ้นไปอีกคือเมื่อสำเร็จแล้ว ธุรกิจจะเติบโตต่อไปอย่างไร ?

ลินอธิบายว่า หลักการของเธอไม่ได้เข้มงวดอะไรมาก เธอยังคงไม่โฆษณาใดๆ ทั้งสิ้นเพราะอยากให้ผู้คนค้นพบออฟุลลี่ช้อคเคลดด้วยตัวของเขาเอง วิธีนี้จะทำให้ลูกค้าแต่ละคนเกิดความประทับใจได้มากกว่า ส่วนการหาผู้ร่วมทุนหรือทำแฟรนไชนส์นั้น ลินไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโตหรือกฏเกณฑ์ที่ชัดเจนอะไร หากเธอให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาวและแนวคิดในการทำธุรกิจมากกว่าเรื่องเงิน เพราะเธอเชื่อว่าธุรกิจของเธอนั้น แรงปรารถนาในใจหรือ passion เป็นสิ่งสำคัญที่สุด คู่ค้าที่มีเงินแต่ขาด passion จะไม่สามารถนำพาออฟุลลี่ช้อคเคลดไปในทิศทางที่ควรจะเป็นได้ เราจึงเห็นว่าผู้ที่ทำแฟรนไชนส์กับลินนั้นเป็นคนที่มีแนวคิดคล้ายๆ กับตัวเธอ เป็นนักธุรกิจหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้มีทุนเยอะ หากมีความคิดแบบหัวก้าวหน้าและแน่นอนคือมีแรงปรารถนาในใจเต็มเปี่ยม

เรื่องเล่าออฟุลลี่ช้อคเคลดของลิน อาจให้บทเรียนหลายๆ อย่างกับผู้ทำร้านกาแฟได้

แน่นอนว่าเมล็ดกาแฟคั่วที่ดีมีรสชาติแปลกแตกต่างกับของคนอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ

แต่การขายน้ำกาแฟนั้นยังต้องการส่วนประกอบอื่นที่เป็นรายละเอียดอีกมากมาย เช่นความสม่ำเสมอของรสชาติ ซึ่งเกิดจากความชำนาญงานของพนักงานชง เครื่องชงที่มีประสิทธิภาพพอ การดูแลรักษาระบบน้ำ และความสะอาดของเครื่องมือต่างๆ การบริการที่รวดเร็วแม่นยำ ด้วยความยิ้มแย้มโอภาปราศรัยและช่วยเหลือ บรรยากาศ สีสัน แสงสว่าง ความสะอาดของร้าน เสียงในร้าน (ทั้งเสียงเพลง และระดับเสียงการพูดคุยในร้าน รวมทั้งเสียงจากการทำเครื่องดื่ม ) ชื่อร้าน โลโก้ บรรจุภัณฑ์ ภาชนะ และ ฯลฯ รวมความง่ายๆ ว่าทุกอย่างที่ลูกค้าสัมผัสได้

ลูกค้าจะสำรวจความรู้สึกของตัวเองรวมๆ และตัดสินในใจว่าเขาจะกลับมาที่นี่อีกหรือไม่

การทำร้านกาแฟจึงเป็นเรื่องของรายละเอียดล้วนๆ เจ้าของหรือผู้บริหารจะต้องเก็บให้ได้หมด เราจึงต้องการคนที่มีแรงปรารถนาในใจหรือ passion มากๆ เพื่อนำร้านสู่ความสำเร็จให้ได้

ถ้ามั่นใจว่ามี passion เต็มเปี่ยมแล้ว ให้รวมกับความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอ เราต้องกล้าที่จะแตกต่างและกล้าหาญที่จะเสี่ยงทำมันออกมา โดยอย่าลืมว่าการทำธุรกิจทุกอย่างต้องเสี่ยงอยู่แล้ว ทุกธุรกิจมีโอกาสสำเร็จและล้มแล้วได้ทั้งนั้น ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้..อย่าทำ

มีทั้งหมด 4-5 ตอน ด้วยกัน ปุ๋ยของแรงบันดาลใจชั้นดีที่คุ้มค่าแก่การทัศนายิ่ง

You can leave a response, or trackback from your own site.

6 Responses to “ทำร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จ | บทเรียนจากออฟุลลี่ช็อคเคลด”

  1. boblam says:

    Sorry to break away from Khun Vudh but I really didn’t like cake from this shop at all and don’t feel any special having cake from this shop. And sorry to say that it’s no surprise it came from Singapore.

    I would trade cake from this shop with any decent bakery in Bangkok and the US all the time.

    The interesting thing is that the shop looks like “jail” to me and it keeps on expanding. So, chocolate cake from a jail. Guess it hit the right spot for some and it might be a good business model.

  2. admin says:

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณ Bobฯ

    ผมเองก็ไม่เคยชิมเค้กของเขาเหมือนกัน เลยทำให้ได้ข้อคิดอีกว่า สินค้าแบบนี้รวมถึงกาแฟด้วยคงไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบได้ แต่ผมเชื่อว่าอย่างน้อยเจ้าของ ในที่นี้คือลินลีเอง ต้องชอบหรือควรจะชอบรสชาติเค้กของตัวเองมากๆ และเมื่อมาทำเป็นธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องขายได้ ความยากจึงเป็นเรื่องของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนที่สุด และหาวิธีที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นให้ได้ ถ้าในนัยนี้ถือว่าลินลีทำได้สำเร็จแล้ว

  3. boblam says:

    “ผมเองก็ไม่เคยชิมเค้กของเขาเหมือนกัน เลยทำให้ได้ข้อคิดอีกว่า สินค้าแบบนี้รวมถึงกาแฟด้วยคงไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบได้”

    Khun Vudh, I agree with you on this. If you don’t mind other languages, you can check out this link. Google is your friend for the translation.

    http://www.openrice.com/restaurant/sr1.htm?s=1&district_id=&inputcategory=cname&inputstrrest=awfully

    See lots of ‘smiley’ face dominated the comment which means she did something right for the market.
    However, look closer on the negative comment. I skimmed through it and most was written in English which indicated a localization of the target group, implying its staying power unless it gains heft by expanding significantly fast. But, it’s a good start, particularly from Singapore which tries to open up the international market via its ‘homegrown’ products as far back as boasting its chicken rice in yesteryear as the best (I don’t agree though and like Thai version much more)

  4. janverich says:

    ขอบคุณสำหรับ clip และบทความ ดีๆที่คุณวุฒ นำมาแชร์ มีประโยชน์มากๆๆๆๆคะ ได้มุมมอง และแง่คิดที่ดีมากๆๆ โดนสุดๆ เธอคงสร้างแรงบัลดาลใจให้กับอีกหลายๆคนมากแน่นอน น่าชื่นชมและยกย่องเป็นอย่างมาก ถ้ามีโอกาสไป จะไปเจอตัวจริงให้ได้เลย. และก็เป็นธรรมดาที่มีคนชอบและไม่ชอบเค็กของเธอ ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้หมด แต่อย่างน้อยเธอก็โชว์ถึงความสำเร็จที่น่าชื่นชมให้เราได้เห็น. Passionของเธอและมุมมองความคิด สุดยอดจริงๆๆฟังinterviews เป็นช.ม.ก็ไม่เบื่อ ให้ข้อคิดที่ดีมากๆเลย ขอบคุณคุณวุฒมากคะ หาบทความดีๆมาแชร์กันอีกนะคะ

  5. ปอง says:

    ขอบคุณข้อเขียนของคุณวุฒครับ ให้มุมมอง ข้อคิด และที่สำคัญเกิดกำลังใจขึ้นอย่างประหลาดกับตัวผม ในการทำตามฝันครับ

  6. Kanyarat Kumdee says:

    Interest in business Khun Lin. I like chocolate cake, watched

    t.v. want my business.

Leave a Reply

Powered by WordPress | Designed by: Premium Themes | Best Themes Gallery, Find Free WordPress Themes and Top WordPress Themes